วิธีสร้างยอดขายผ่าน Reels และ Stories ใน Instagram
3 เทคนิคที่คุณสามารถใช้ Reels และ Stories เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายและยอดขายของคุณบน Instagram
1. ใช้ Instagram Stories และ Instagram Reels เพื่อเปลี่ยนผู้ดูให้กลายเป็นผู้ติดตาม
Reels และ Stories ต่างกันตรงที่ Reels สามารถดูได้จากหน้าแฮชแท็กและฟีด ซึ่งจะรันของคนอื่นมาบ้าง ในทางกลับกัน Stories จะแสดงเฉพาะคนที่คุณติดตามอยู่เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า Reels มีสิทธิ์ที่จะได้รับการชมมากกว่าตัว Stories ซึ่งหมายความ Reels นั้นน่าสนใจมากกว่า โดยการที่จะทำให้สองฟีเจอร์นี้ทำงานร่วมกัน ก็คือเพิ่มคำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA) ลงในแคปชั่นของสตอรี่เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาดูข้อมูลเพิ่มเติมบน Reels ของคุณ เมื่อมีคนมาติดตามมากขึ้นคุณสามารถทำให้เรื่องราวบน Instagram ของคุณเป็นอันดับต้นๆ ได้ด้วยการโพสต์เป็นประจำและบ่อยครั้ง ยิ่งคุณโพสต์ในหนึ่งวันได้บ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
ไม่ควรใช้กลยุทธ์นี้ไม่สามารถทำงานร่วมกับบัญชี Instagram ที่มีส่วนตัว เพราะว่าผู้ที่ติดตามคุณสำหรับโพสต์ที่ไม่สนใจธุรกิจของคุณก็จะเลิกติดตามคุณ แต่ถ้าหากคุณมีบัญชีสำหรับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณก็จะยิ่งช่วยเพิ่มผู้ติดตามที่สนใจธุรกิจของคุณจริงๆ และช่วยเพิ่มยอดขายให้อีกด้วย
2. สร้าง Reels เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณ
เนื้อหาในฟีดของคุณควรเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ (มีข้อยกเว้นบางประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบัญชีขนาดใหญ่) แต่สำหรับบัญชีขนาดเล็ก สิ่งสำคัญคือต้องสร้างผู้ชมด้วยเฉพาะกลุ่มของคุณก่อน จากนั้นเมื่อคุณมีผู้ชมจำนวนมาก คุณจะสามารถโพสต์เรื่องอื่นได้ ข้อนี้สำคัญมาก หากคุณนำเสนอเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่บ้าน ก่อนผู้คนจะติดตาม มักจะติดตามดูโพสต์เก่าๆของคุณก่อน หากไม่ต้องกับจุดประสงค์ ก็อาจจะไม่ติดตาม หรือการโพสต์ที่หลากหลายเรื่องราวจนเกินไป ก็ทำให้ไม่น่าสนใจเช่นกัน ในทางกลับกัน หากคุณโพสต์วิดีโอเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่บ้านและมีคนแตะวิดีโอนั้นกลับไปที่โปรไฟล์ของคุณ ซึ่งพวกเขาเห็นวิดีโออื่นๆ ที่เน้นไปที่การออกกำลังกายที่บ้าน เคล็ดลับสำหรับการออกกำลังกายที่บ้าน พวกเขามีแนวโน้มที่จะติดตามคุณมากขึ้น และไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะกลับมาที่บัญชีของคุณซ้ำแล้วซ้ำอีก สิ่งสำคัญคือรายละเอียดลงไปบน Bio เพื่อให้ผู้ที่กำลังติดตามได้ทราบ เพื่อการตัดสินใจ
การใช้ Reels เพื่อดึงดูดความสนใจให้มีผู้ติดตามมากยิ่งขึ้น ไม่ควรตามเทรนด์บางอย่างมากเกินไป เช่น เทรนด์การเต้นกำลังมาแรงและคุณตามกระแส หากวิดีโอการเต้นนั้นกลายเป็นกระแสไวรัลสำหรับคุณ ก็สามารถดึงดูดผู้ติดตามใหม่ๆ มายังบัญชี Instagram ของคุณได้ อย่างไรก็ตาม หากวิดีโอการเต้นนั้นไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณแต่อย่างใด ผู้ติดตามใหม่ทั้งหมดก็จะหมดความสนใจในเนื้อหาที่เหลือของคุณอย่างรวดเร็ว พวกเขาอยู่ที่นั่นสำหรับวิดีโอเทรนด์เดียวเท่านั้น เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่มักติดตามแบรนด์ที่ตอบสนองวัตถุประสงค์ของพวกเขาเป็นหลัก ดังนั้น คุณควรสร้างเนื้อหา Reels ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและเฉพาะของคุณทุกครั้ง ยิ่งถ้าเป็น Reels ที่คุณขึ้นมาเอง ก็จะได้เปรียบมากกว่าแบรนด์อื่นๆ
3. รักษายอดผู้ติดตามของคุณด้วย Stories
คุณควรใช้ Reels เพื่อการแนะนำผู้ชมใหม่ๆ ในกรณีที่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน เพราะมักจะพบคุณผ่าน Reels โดยคุณควรใช้ข้อดีตรงนี้เพิ่มเนื้อหาและคำอธิบายภาพที่ถูกต้องเพื่อเชิญคนเหล่านี้ให้ดูเรื่องราว Stories ของคุณ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องสร้างโฆษณาหรือเนื้อหาใหม่ๆ ทุกครั้ง คุณสามารถเรื่องสตอรี่ที่ผู้คนส่วนใหญ่ชื่นชอบ ไม่จำเป็นต้องเน้นการขายตลอดเวลา อาจจะเป็นมีม สติ๊กเกอร์ หรือโพลสำรวจน่ารักๆ ตลกๆ หรือหรูหรา เลือกที่เข้ากับแบรนด์ของคุณมาโพสต์ เพื่อไม่ให้น่าเบื่อจนคนกดข้าม หรือบัญชีของคุณร้างจนเกินไป เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ มักเข้าอินสตาแกรมกันวันละหลายครั้ง ดังนั้นการสร้างเนื้อหาที่พวกเขาไม่ต้องการพลาดจะทำให้คุณเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะดูสตอรี่ของคุณทุกครั้งที่เข้าสู่ระบบ เพื่อเป็นการรักษาสัมพันธ์กับผู้ติดตาม และอาจจะเป็นโอกาสการเพิ่มยอดขายนั่นเอง
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @inDigital ที่นี่
Fanpage : INdigital การตลาดออนไลน์
ที่มา : SocialMediaToday